หนึ่งในใบเบิกทางสำหรับอนาคตคือความรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งการนำคะแนนสอบภาษาอังกฤษไปใช้สมัครศึกษาต่อหรือทำงานเป็นวิธีที่ช่วยให้การประเมินผลสะดวก รวดเร็ว องค์กรทางภาษาต่างๆ จึงมีการจัดสอบวัดความรู้ขึ้นเพื่อให้ได้การประเมินผลที่มีมาตรฐาน ซึ่ง TOEFL เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษที่มีจุดเด่นคือวัดความสามารถภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน
TOEFL คืออะไร?
TOEFL ย่อมาจาก Test of English as a Foreign Language คือ การทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐานของภาษาอังกฤษอเมริกัน เดิมผลคะแนน TOEFL ใช้สำหรับสมัครศึกษาต่อเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยชั้นนำส่วนใหญ่ในอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ก็ใช้ผลคะแนนสอบ TOEFL ในการประเมินความสามารถภาษาอังกฤษของผู้สมัคร นอกจากนี้ TOEFL ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากกว่า 130 ประเทศ และสถาบันการศึกษากว่า 7,500 แห่งทั่วโลก ในการนำผลคะแนนมาประเมินความสามารถของผู้สมัครสำหรับการเข้าศึกษาต่อ รวมถึงการให้ทุนการศึกษา
เดิมการสอบ TOEFL จะเป็นการสอบแบบ Paper-Based Test (PBT) ที่ทำข้อสอบในกระดาษ โดยทดสอบทักษะเพียงทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียน แต่ได้ถูกยกเลิกไปในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย และเปลี่ยนเป็นการสอบแบบ Internet-based Test (IBT) ที่ทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ ซึ่งทดสอบทักษะทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนแทน ซึ่งผลคะแนนสอบจะสามารถเก็บไว้ใช้ได้ 2 ปีนับจากวันที่สอบ
การสมัครสอบ TOEFL
การสมัครสอบ TOEFL สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยต้องสมัครแอคเคาท์ของตนเองก่อนที่ https://v2.ereg.ets.org/ereg/public/jump?_p=TEL เมื่อสมัครเสร็จเรียบร้อยและได้รับการยืนยันทางอีเมล สามารถใช้ Username และ Password ล็อกอินเข้าสู่ระบบเพื่อลงทะเบียนสมัครสอบได้เลย
ในส่วนของการชำระเงิน สามารถชำระโดยตัดเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของ American Express, Discover, JCB, MasterCard หรือ VISA หรือบัญชี Paypal เมื่อชำระแล้วให้สั่งพิมพ์หลักฐานการชำระเงินเก็บเอาไว้ เนื่องจากในวันสอบ นอกจากบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางแล้ว ต้องใช้ Registration Number ในวันสอบด้วย
ระยะเวลาการสมัคร ต้องสมัครสอบ 7 วันก่อนถึงวันสอบ ซึ่งลงทะเบียนล่าช้าได้ก่อนถึงวันสอบ 4 วัน แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมล่าช้า 40 เหรียญสหรัฐฯ (US$40)
แนวทางการสอบ TOEFL
การทดสอบ TOEFL ทั้ง 4 ทักษะ คือ การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) แต่ละทักษะมีคะแนนเต็ม 30 คะแนน รวมคะแนนเต็มทุกทักษะ 120 คะแนน
1. การพูด (Speaking)
การสอบทักษะการพูด สิ่งที่ต้องตรวจสอบคือ หูฟัง และไมโครโฟน ว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ โดยทดลองพูดด้วยระดับเสียงปกติ ไม่ดังหรือเบาจนเกินไป ถ้ามีปัญหาต้องติดต่อผู้คุมสอบทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาก่อนเริ่มสอบ
ในส่วนของข้อสอบ แบ่งเป็นพาร์ทได้ดังนี้
- Independent 2 ข้อ
ผู้สอบจะได้ฟังเรื่องราว หรือประสบการณ์ของผู้พูด มักเป็นเรื่องในสังคมไทยที่เราคุ้นเคย เมื่อฟังเสร็จมีเวลาเตรียมตัวตอบคำถาม 15 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 45 วินาที - Integrated Reading + Listening 2 ข้อ
การสอบพูดในพาร์ทนี้มีการอ่านร่วมด้วย ผู้อ่านต้องอ่านบทความสั้นๆ และฟังบทสนทนาหรือคำบรรยายเกี่ยวกับบทความที่อ่าน มีเวลาเตรียมตัวตอบคำถาม 30 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 1 นาที - Integrated Listening 2 ข้อ
ผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนาหรือการบรรยายเชิงวิชาการ เมื่อฟังเสร็จมีเวลาเตรียมตัวตอบคำถาม 20 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 1 นาที
ข้อสอบการพูดจะมีผู้ตรวจข้อสอบ 2 คน ข้อละ 1-4 คะแนน ซึ่งจะได้ 0 คะแนนในกรณีที่พูดเสียงเบา หรือพูดไม่เกี่ยวกับคำถาม เมื่อรวมคะแนนแล้วมีเกณฑ์ประเมินการทดสอบดังนี้
• Weak: 0-9 คะแนน
• Limited: 10-17 คะแนน
• Fair: 18-25 คะแนน
• Good: 26-30
2. การฟัง (Listening)
การทดสอบการฟัง แบ่งได้เป็น 2 พาร์ท คือ
- Academic Lecture
ผู้สอบต้องฟังการบรรยายสถานการณ์จำลองประมาณ 3-5 นาที แล้วตอบคำถามประมาณ 6 ข้อต่อ 1 เรื่อง ข้อสอบจะมีทั้งหมดประมาณ 4-6 เรื่อง - Conversation
ผู้สอบต้องฟังบทสนทนาประมาณ 3 นาที และตอบคำถามจากบทสนาที่ได้ฟังประมาณ 5 ข้อ ข้อสอบจะมีทั้งหมดประมาณ 2-3 เรื่อง
คะแนนเต็มในส่วนของทักษะการฟังคือ 30 คะแนน เมื่อรวมคะแนนแล้วมีเกณฑ์ประเมินการทดสอบดังนี้
• Low: 0-14 คะแนน
• Intermediate: 15-21 คะแนน
• High: 22-30 คะแนน
3. การอ่าน (Reading)
ในการทดสอบการอ่าน ผู้สอบต้องอ่านบทความที่มีความยาวประมาณ 700 คำ แล้วตอบคำถามจากบทความประมาณ 12-14 ข้อ โดยข้อสอบจะมีทั้งหมดประมาณ 3-5 บทความ
คะแนนเต็มในส่วนของทักษะการอ่านคือ 30 คะแนน เมื่อรวมคะแนนแล้วมีเกณฑ์ประเมินการทดสอบดังนี้
• Low: 0-14 คะแนน
• Intermediate: 15-21 คะแนน
• High: 22-30 คะแนน
4. การเขียน (Writing)
การทดสอบทักษะนี้ ต้องใช้ทักษะการฟังและการอ่านร่วมด้วย โดยอ่านบทความ จากนั้นฟังไฟล์เสียงประกอบ แล้วนำมาเขียนตอบเป็นบทความ 2 บทความ แบ่งได้ดังนี้
- Integrated Writing
ผู้สอบต้องอ่านบทความที่กำหนดมาให้ในเวลา 30 นาที แล้วฟังไฟล์เสียงประกอบซึ่งเป็นการเสนอข้อโต้แย้ง จากนั้นจึงนำสิ่งที่ได้ยินมาเขียนบทความให้มีความยาว 150-225 คำ ภายในเวลา 20 นาที - Independent Writing
ผู้สอบจะต้องตอบคำถามจากโจทย์เป็นบทความอย่างน้อยประมาณ 300 คำ โดยใช้ความคิดของตนเอง ภายในเวลา 30 นาที
คะแนนเต็มในส่วนของทักษะการเขียนคือ 30 คะแนน เมื่อรวมคะแนนแล้วมีเกณฑ์ประเมินการทดสอบดังนี้
• Fair: 17-23 คะแนน
• Good: 24-30 คะแนน
TOEFL มีการจัดสอบเฉลี่ยเดือนละครั้ง สำหรับผู้ที่สนใจสมัครสอบสามารถตรวจสอบตารางการสอบได้ที่ https://v2.ereg.ets.org/ereg/public/workflowmanager/schlWorkflow?_p=TEL โดยกรอกสถานที่และระยะเวลาที่ต้องการสอบได้เลย